เทคนิคการสร้างแรงจูงใจ ตามแบบของมาสโลว์
จิตวิทยาของมาสโลว์
อับราฮัม เอช. มาสโลว์ (Abraham Harold Maslow) เป็นนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งจิตวิทยามนุษยนิยม (Humanistic psychology) แนวความคิดทางจิตวิทยาที่ให้ความสำคัญกับศักยภาพของมนุษย์ ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ (Maslows hierarchy of needs) เป็นทฤษฎีที่่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นทฤษฎีที่อธิบายแรงจูงใจของมนุษย์ได้อย่างครอบคลุม และเป็นทฤษฎีที่ถูกใช้ในการสร้างแรงจูงใจของมนุษย์ที่เข้าใจได้ง่าย และไม่ว่าจะผ่านมานานหลายปีแล้ว ทฤษฎีนี้ ยังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย และยังคงหยิบยกมาใช้กันอยู่ในปัจจุบันด้วย
สำหรับ หัวหน้างาน ควรจะรู้จักทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ของมาสโลว์ เพราะจะช่วยให้เข้าใจถึงแรงจูงใจของลูกน้องในทีม ซึ่งหัวหน้างาน จะได้เข้าใจความต้องการของลูกน้องและสามารถบริหารจัดการให้ลูกน้องเกิดแรงจูงใจที่ดีในการทำงาน และมุ่งสู่เป้าหมายขององค์กรได้
ลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ ของมาสโลว์ ได้แบ่งความต้องการของมนุษย์ออกเป็น 5 ขั้น โดยจะต้องเรียงลำดับ จากขั้นต่ำสุดไปหาสูงสุด ดังนี้
ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกายภาพ (Physiological needs)
ความต้องการพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น อาหาร น้ำ อากาศ ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า ยารักษาโรค หากมาอธิบายถึงความต้องการของลูกน้อง หรือคนทำงาน ความต้องการขั้นพื้นฐานของคนกลุ่มนี้ ก็คือ ปัจจัย 4 และสิ่งที่สามารถสร้างแรงจูงใจได้ดีในขั้นนี้ ก็คือ ค่าตอบแทน หรือเงินเดือน ที่จะช่วยทำให้พนักงาน สามารถนำมาใช้ซื้อของเพื่อดำรงชีพและเลี้ยงดูครอบครัวได้
ขั้นที่ 2 ความต้องการความปลอดภัย (Safety needs)
ความต้องการที่จะรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น ความปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ การถูกทำร้าย หากสภาพแวดล้อม ไม่ได้ทำให้เกิดความปลอดภัยต่อร่างกาย ทรัพย์สินหรือชีวิต ก็อาจเป็นการลดแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานลงได้ ส่งผลทำให้พนักงานไม่อยากทำงาน หรือ สร้างผลผลิตที่ต่ำ อีกทั้ง อาจจะส่งผลให้เกิดการตัดสินใจลาออกได้ และนอกจากเรื่องความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ความปลอดภัยทางจิตใจ ( Psychological safety ) และความรู้สึกมั่นคงในการทำงาน ( Security ) ก็ถือว่า เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงานด้วยเช่นกัน ดังนั้น หัวหน้างาน ควรจะต้องดูแลและสร้างความรู้สึกปลอดภัยในการทำงาน ทั้งสถานที่ สภาพแวดล้อม ลักษณะงาน รวมทั้ง การดูแลทางด้านจิตใจ ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงต่อสภาพจิตใจ หรือทำร้ายจิตใจกัน
ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและความรู้สึกเป็นเจ้าของ (Love and belonging needs)
ความต้องการที่จะได้รับการยอมรับ ความรัก และความรู้สึกเป็นเจ้าของจากผู้อื่น เช่น ความต้องการมีครอบครัว เพื่อนฝูง รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม เพราะมนุษย์ เป็นสัตว์สังคม การได้รับการยอมรับ จากเพิ่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือคนในองค์กร จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานเกิดความรู้สึกที่ดีในการทำงาน เมื่อพนักงาน ได้รับการตอบสนอง ทั้ง 2 ลำดับขั้นที่ผ่านมาแล้ว สิ่งที่หัวหน้างาน ต้องส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานเพิ่มขึ้น คือ การสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน มีการทำงานเป็นทีม ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการชื่นชมพนักงาน ให้กำลังใจ สิ่งเหล่านี้ ล้วนช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับลูกน้องและช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานให้กับพนักงานได้อย่างดีอีกด้วย
ขั้นที่ 4 ความต้องการการยกย่องนับถือ (Esteem needs)
ความต้องการได้รับการยอมรับ ยกย่อง และนับถือจากผู้อื่น เช่น ความต้องการประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับจากผู้อื่น เมื่อพนักงานได้รับการตอบสนอง 3 ลำดับขั้นแล้ว ความต้องการขั้นถัดไป ก็คือ การได้รับการยอมรับ และนับถือจากผู้อื่น และเชื่อว่า พนักงานที่ผ่าน 3 ลำดับขั้นมาแล้ว ก็คงต้องใช้เวลามาซักระยะหนึ่ง พนักงานก็น่าจะมีประสบการณ์ที่มากขึ้น และได้รับการมอบหมายงานที่เริ่มมากขึ้นมากกว่าช่วงเริ่มทำงานใหม่แน่นอน ดังนั้น การให้คำชื่นชม การยกย่อง ชมเชย จึงเป็นสิ่งที่พนักงานต่างก็ต้องการสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะได้รับเงินค่าจ้าง การประเมินผลงาน ผลตอบแทน สวัสดิการต่างๆ หรือ โบนัส แล้ว คำยกย่อง คำชื่นชม คำชมเชย ก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่ลูกน้องของเรา ต่างก็ต้องการสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน หัวหน้างาน ไม่ควรมองข้ามสิ่งเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่นี้ กันนะครับ
ขั้นที่ 5 ความต้องการการตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง (Self-actualization needs)
ความต้องการที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองให้สูงสุด เช่น ความต้องการแสดงออกถึงความสามารถของตนเอง แสวงหาความหมายของชีวิต เมื่อพนักงานได้รับการตอบสนองครบทั้ง 4 ขั้นแล้ว เมื่อมาถึงขั้นที่ 5 พนักงานก็อยากจะได้ทำงานในสิ่งที่ได้แสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้ทำในสิ่งที่ใจต้องการ ดังนั้น หากลูกน้องมาถึงลำดับขั้นนี้แล้ว หัวหน้าก็ควรจะต้องสิ่งเสริมให้พวกเขาเหล่านี้ ได้แสงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ และสังเกตุว่า เมื่อลูกน้องมาถึงขั้นนี้แล้ว เรื่องเงิน หรือค่าตอบแทน ไม่ใช่ สิ่งที่เค้าต้องการเป็ฯลำดับแรกแล้ว เพราะเค้าได้รับการเติมเต็มครบแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการ คือ การได้ทำสิ่งที่อยากทำ และเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ หรือเพื่อนร่วมงานอย่างแท้จริง
ทฤษฎีนี้ มาสโลว์ได้วางเงื่อนไขไว้ 2 ข้อ ด้วยแนวคิดที่ว่า
1. ความต้องการทั้ง 5 ขั้นจะเกิดขึ้นตามลำดับ จาก ลำดับขั้นที่ 1 ไปลำดับขั้นที่ 5 เสมอ
2. ตราบเท่าที่คนคนนั้นยังไม่รู้สึกว่าความต้องการในลำดับขั้นต่างๆ ได้รับการเติมเต็มแล้ว จะไม่มีการก้าวข้ามไปยังความต้องการลำดับขั้นต่อไป
เมื่อหัวหน้างาน พอเข้าใจทฤษฎีนี้แล้ว ก็ลองนำไปปรับใช้กัน ได้นะครับ และที่สำคัญ อย่าลืม ความต้องการขั้นพื้นฐาน ขั้นที่ 1 ให้เติมเต็มก่อนนะครับ ทำอย่างไร จะช่วยให้พนักงานมีความสามารถ หรือมีโอกาส ที่จะเพิ่มเรายได้ เพิ่มผลตอบแทนจากการทำงานได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว เพราะตราบใด หากรายได้ที่ได้รับในแต่ละเดือน ยังไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้ อย่าเพิ่งไปออกแบบระบบจูงใจในลำดับขั้นถัดไปนะครับ เพราะว่า พนักงานเหล่านี้ คงยังไม่มีมองไปถึงขั้นถัดไปอย่างแน่นอน
#พี่เลี้ยงหัวหน้างาน